ดูบทความ
ดูบทความเปิดเผย เคล็ดลับ การเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบบชาญฉลาด
เปิดเผย เคล็ดลับ การเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบบชาญฉลาด
หมวดหมู่:
ศูนย์การเรียนรู้ ไฟ LED ของ AEC
เปิดเผย เคล็ดลับ การเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบบชาญฉลาด | |||||||
เหมาะสำหรับ : ฝ่ายจัดซื้อ วิศวกรไฟฟ้า นักอนุรักษ์พลังงาน ผู้รับเหมาโครงการไฟฟ้า ร้านจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้า หน่วยงานภาครัฐ และ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป ฯลฯ ในปัจจุบัน หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน กำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ในภาคส่วน โรงงานอุตสาหกรรม ภาคส่วนบริษัท หน่วยงานรัฐ โรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า และ ประชาชน โดยทั่วไป โดยที่ในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการ นำเอา หลอดไฟ LED เข้ามาจำหน่าย ในประเทศไทย เป็นจำนวนมาก มีทั้งแบบ คุณภาพดี คุณภาพปานกลาง คุณภาพต่ำ แต่ส่วนใหญ่ที่พวกเราพบกัน ก็คือ หลอดไฟ LED คุณภาพต่ำ หรือ ไม่ก็เป็น หลอดไฟ LED ที่ไม่ได้ผ่านการออกแบบใหม่ (R&D) เพื่อให้มีคุณสมบัติ ที่สามารถรองรับการใช้งาน หนักในโรงงานอุตสาหกรรมของประเทศไทย และ ประเทศในเขต AEC โซน ซึ่งมีภูมิอากาศ ร้อน ถึงร้อนจัด จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งาน สั้น กว่า ที่ควรจะเป็น !!! ****หมายเหตุ รวบรวมข้อมูล จากหลักการ คัดเลือก Supplyer หลอดไฟ LED ประหยัดพลังงาน ที่ผ่านการอนุมัติโครงการอนุรักษ์พลังงาน จากกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ในนิคมอุตสาหกรรม ชั้นนำของ ประเทศไทย มากกว่า 500 โรงงาน เคล็ดลับ การเลือก ซื้อ หลอดไฟ LED คุณภาพสูง มีดังรายการต่อไปนี้ 1.เลือก หลอด LED ที่ใช้ พลังงานไฟฟ้าน้อยกว่า (W) กินไฟน้อยกว่า หลอด ไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพสูง จะมี อัตราการใช้พลังงานน้อย แต่กลับให้ค่าแสงสว่างที่สูง กว่า หลอดไฟ LED ทั่่วๆ ไป ที่มีอัตราการใช้พลังงาน W มากกว่า ตัวอย่างเช่น แบรนด์ A : หลอดไฟ LED T8 18 W ให้ค่าแสงสว่าง ที่ 1,900 ลูเมน แบรนด์ B : หลอดไฟ LED T8 20 W ให้ค่าแสงสว่าง ที่ 1,600 ลูเมน ในกรณีนี้ เราควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบรนด์ A เพราะ หลอดไฟ LED แบรนด์ A กินไฟน้อยกว่า ใช้พลังงาน เพียงแค่ 18 W แต่กลับให้แสงสว่างมากกว่า หลอดไฟ LED แบรนด์ B เป็นต้น . 2.เลือก หลอด LED ที่ให้ ค่าลูเมนและค่า Lux สูงกว่า และให้แสงสว่างกว่า . หลอด LED ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า จะมีค่าลูเมน และ ค่า Lux ที่สูงมากกว่า หลอด LED ที่มีคุณภาพต่ำกว่า ตัวอย่างเช่น แบรนด์ A : หลอดไฟ LED T8 18 W ให้ค่าแสงสว่าง ที่ 1,900 ลูเมน แบรนด์ B : หลอดไฟ LED T8 18 W ให้ค่าแสงสว่าง ที่ 1,800 ลูเมน ในกรณีนี้ เราควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบรนด์ A เพราะ หลอดไฟ LED แบรนด์ A ใช้พลังงาน 18 W เท่ากับแบรนด์ B แต่แแบรนด์ A ให้แสงสว่างมากกว่า หลอดไฟ LED แบรนด์ B ***หมายเหตุ ในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการ หลายบริษัท เขียน สเปค หลอดไฟ LED เอง โดย กำหนด ค่าลูเมน ที่สูงกว่าความเป็นจริง วิธีการตรวจสอบในกรณีนี้คือ ก่อนที่ จะทำการซื้อสินค้า ให้นำหลอดไฟ LED มาเปิดทดสอบการใช้งานจริง และ วัดค่าความสว่าง เปรียบเทียบ กัน แบบ หลอด ต่อ หลอด . 3.เลือก หลอดไฟ LED ที่มีระบบการระบายความร้อนที่ดีกว่า ทนทานกว่า . หลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า จะมีการออกแบบ Sink อลูมิเนียม ระบายความร้อน ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อให้มีคุณสมบัติการระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ ความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาจาก Chip LED ไม่ถูกสะสม วงจรอิเล็กโทรนิกซ์ ไม่ถูกทำลาย และเป็นสาเหตุที่ทำให้ หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งาน ยาวนานขึ้น แต่ ถ้าเป็นหลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพต่ำ จะมี Sink อะลูมิเนียมระบายความร้อนขนาดเล็ก ทำให้การระบายความร้อนเป็นไปอย่างล่าช้า เกิดอุณหภูมิสะสมสูงชึ้น ที่ Chip LED จนเป็นสาเหตที่ทำให้แผงวงจร เสียหาย และอายุการใช้งานของ หลอดไฟ LED สั้นกว่าที่ควรจะเป็น. ตัวอย่างเช่น แบรนด์ A : หลอดไฟ LED T8 18 W มี Sink อะลูมิเนียม ขนาดใหญ่ แสดงว่า หลอด LED แบรนด์ A ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความสามารถในการระบายความร้อน ได้เป็นอย่างดี หลอดไฟ LED ประเภทนี้ เหมาะกับการนำมาใช้งานหนัก ในโรงงานอุตสาหกรรม ของประเทศไทย และ ประเทศในเขต AEC โซน แบรนด์ B : หลอดไฟ LED T8 18 W มี Sink อะลูมิเนียม ขนาดเล็ก หรือ บางหลอดที่มีคุณภาพต่ำสุด จะไม่มี Sink ระบายความร้อนเลย หรือเป็น แบบระบบปิด (Sink อะลูมิเนี่ยมอยู่ภายในหลอด) ไม่เหมาะกับการใช้งานในประเทศเขตร้อน อย่างเช่นประเทศไทย โดยหลอดไฟ LED ประเภท ไม่สามารถนำมาใช้งานหนักในโรงงานอุตสาหกรรมของไทยได้ เพราะในโรงงานอุตสาหกรรม จะเปิดหลอดไฟ แบบยาวนาน และต่อเนื่อง 12-24 ชม.ต่อวัน ทำให้เกิดอุณหภูมิสะสมภายในหลอดไฟ ที่สูงมาก แต่หลอดไฟ LED ประเภทนี้ มี Sink อะลูมิเนียมขนาดเล็ก ทำให้ระบายความร้อนไม่ทัน และเป็นสาเหตุ ที่ทำให้หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานสั้นกว่า ที่ควรจะเป็น ในกรณีนี้ เราควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบรนด์ A เพราะ หลอดไฟ LED แบรนด์ A ได้รับการ ออกแบบ มาเป็นพิเศษ เพื่อให้หลอดไฟ LED มีคุณสมบัติการระบายความร้อนที่รวดเร็ว ทำให้หลอด LED มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า หลอด LED แบรนด์ B ที่มี Sink ระบายความร้อน ขนาดเล็กกว่า . 4.เลือก หลอดไฟ LED ที่ใช้ Driver คุณภาพสูง ปลอดภัยกว่า ทนทานกว่า . หลอด LED ที่มีประสิทธิภาพสูง จะมีระบบรักษาความปลอดภัย เป็นแบบ High safety Syetem ประกอบด้วย . -Power Supply คุณภาพสูง มีระบบการกรองคลื่น ฮาโมนิกซ์ ทำให้มีค่า ฮาโมนิกซ์ต่ำ ผ่านมาตรฐานยุโรป คือไม่เกิน 15% ทนความร้อนได้สูง รองรับการใช้งานหนัก ในโรงงานอุตสาหกรรม -มีระบบ Surge Protection คือระบบป้องกัน ความเสียหาย ของวงจรหลอดไฟ ในกรณี ที่ระบบไฟฟ้า ของโรงงาน เกิดอาการ กระแสไฟฟ้ากระชาก Peak Voltage ค่ากระแสไฟฟ้า สูงกว่าภาวะปกติ หรือในกรณีเกิดฟ้าลง ซึ่งถ้าหาก หลอดไฟ LED เป็นแบบที่มีคุณภาพต่ำ และไม่มีระบบ Surge Protection หลอดไฟ LED จะเสียทันที! -มีระบบ Isolate Driver ป้องกันการถูกรบกวน จากคลื่น ฮาโมนิกซ์ ภายนอกตัวหลอด เช่น จากเครื่องจักรในโรงงาน โดยในโรงงานอุตสาหกรรม แต่ละโรงงาน จะมีเครื่องจักรจำนวนมาก และ เครื่องจักรเหล่านี้ ก็จะมีค่า ฮาโมนิกซ์ที่สูงมาก และปล่อยคลื่นฮาโมนิกซ์ ออกมารบกวนการทำงานของ หลอดไฟ LED ทำให้หลอดไฟ LED ที่ไม่มีระบบ Driver แบบ Isolate (ระบบป้องกันคลื่นฮาโมนิกซ์จากภายนอก) ถูกคลื่นฮาโมนิกนิกซ์ จำนวนมาก จากเครื่องจักรรบกวน จนเป็นสาเหตุ ให้มีอายุการใช้งาน ที่สั้นกว่า ที่ควรจะเป็น -มีฉนวน ป้องกัน ไฟฟ้าลัดวงจร หลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพสูง จะมีการออกแบบ ระบบรักษาความปลอดภัย ขั้นสูงสุด เพื่อป้องกัน ไม่ให้ อุปกรณ์ Driver ซึ่งเป็นอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกซ์ มีโอกาสแตะสัมผัส เข้ากับ Sink อะลูมิเนียม ซึ่งเป็นโลหะ และสามารถนำไฟฟ้า ได้ โดยได้ออกแบบ Insulation ฉนวนป้องกัน ไฟฟ้าลัดวงจร มาครอบ Driver ทั้งหมดไว้ แต่ในขณะเดียวกัน หลอดไฟ LED คุณภาพต่ำ จะไม่มีการ ลงทุน ด้านนี้ Driver มีขนาดเล็ก และ ปล่อยให้เปลือย เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต ทำให้ หลายๆ ครั้ง ได้เกิดอุบัติเหตุ มีไฟฟ้าลัดวงจร และ ช็อต พนักงานในโรงงาน ขณะทำการเปลี่ยนหลอดไฟ LED ตัวอย่างเช่น แบรนด์ A : หลอดไฟ LED T8 มี Driver ชนิดพิเศษ Isolate Driver ขนาดใหญ่ มีพื้นที่ ที่มากพอ ในการวาง แผงวงจร ระบบรักษาความปลอดภัย ต่างๆ แบบ High Safety System เพื่อให้หลอดไฟ LED มีคุณสมบัติพิเศษ ที่สามารถรองรับการใช้งานหนัก ในโรงงานอุตสาหกรรม ของประเทศไทย โดยเฉพาะ แบรนด์ B : หลอดไฟ LED T8 มี Driver ขนาดเล็ก ไม่ได้ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัย เพราะต้องการลดต้นทุน และ เป็นหลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพต่ำ ในกรณีนี้ เราควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบรนด์ A เพราะ หลอดไฟ LED แบรนด์ A มีระบบรักษาความปลอดภัย แบบครบวงจร ทำให้มีอายุการใช้งาน ยาวนานกว่า และ ทีสำคัญ มีความปลอดภัยในการใช้งาน 5.เลือกหลอด LED ที่ผ่านมาตรฐาน การตรวจสอบคุณภาพจากภาครัฐ มอก.1955-2551 หลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพปานกลาง จนถึง แบบที่มีคุณภาพสูง จะต้องผ่าน มาตรฐานการตรวจสอบโรงงาน จากภาครัฐ เพื่อยืนยัน ว่า เป็น ผลิตภัณฑ์ หลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพ และเหมาะสมกับการนำมาใช้งานในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น แบรนด์ A : หลอดไฟ LED T8 18 W มี มอก.1955-2551 ครบ ตามกฏหมายกำหนด แบรนด์ B : หลอดไฟ LED T8 18 W ไม่มี มอก.1955-2551 ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ จากภาครัฐ ในกรณีนี้ เราควรเลือกซื้อ หลอดไฟ LED แบรนด์ A เพราะ หลอดไฟ LED แบรนด์ A ผ่านมาตรฐานการ ตรวจสอบคุณภาพ จากภาครัฐ และเป็นส่งเสริมการใช้ หลอดไฟ LED ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ด้วย ข้อควรระวัง ไม่ควรล็อกสเปค หรือ ฮั้วประมูลโครงการ ! : โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ยุคส่งเสริม การทำธุรกิจ แบบมีธรรมาภิบาล ไม่คอรัปชั่น ไม่ล็อกสเปค จนทำให้ในอดีตที่ผ่านมา หลายๆหน่วยงานภาครัฐ ได้ของแพง แต่ คุณภาพต่ำ! เราควรเปิดโอกาส และส่งเสริม ให้บริษัท ที่ประกอบธุรกิจ หลอดไฟ LED อย่างถูกต้องตามกฏหมาย และ มีธรรมาภิบาล ได้เข้าร่วมแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม ไม่ควรล็อกสเปคสินค้า ด้วยการกำหนด เอกสารแล็ป ต่างๆ หยุ่มหยิ่ม จนทำให้ ผู้ประกอบการ ที่ประกอบธุรกิจ หลอดไฟ LED แบบมี ธรรมาภิบาล ไม่สามารถเข้าแข่งขันได้ ในการกำหนดเอกสาร ควรกำหนด เงือนไข แบบ Must Have เฉพาะเอกสาร ที่มีความสำคัญจริงๆ เช่น มอก.1955-2551 เพราะเป็นไปตามที่กฏหมายไทยกำหนด ให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจ หลอดไฟ LED ต้องมีใบอนุญาต มอก.1955-2551 ส่วนเอกสารด้านอื่นๆ กำหนดให้เป็น เพียงคะแนนเสริม แต่ไม่ตั้งเป็นเงื่อนไข กีดกัน ผู้ประกอบการ หลอดไฟ LED รายอื่นๆ ข้อควรปฎิบัติ เพื่อให้โรงงาน และ บริษัท รวมท้้งหน่วยงานภาครัฐ และ เอกชน ได้มีโอกาสในการได้คัดเลือก หลอดไฟ LED ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีราคาที่สมเหตุ สมผล มาใช้งานในองค์กร อย่างคุ้มค่าที่สุด และเกิดประโยชน์สูงสุด กับ องค์กร ภาครัฐ และ ภาคเอกชน ควรให้ความสำคัญ! กับการทดสอบประสิทธิภาพ จากการใช้งานจริง! ดังรายการต่อไปนี้ 1.ทดสอบ เปรียบเทียบ การให้แสงสว่าง โดยควรทดสอบการใช้งานจริง และตรวจวัดค่าความสว่าง 2.ตรวจสอบ การออกแบบ ระบบการระบายความร้อน ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ที่ส่งผลโดยตรง ต่ออายุการใช้งาน 3.ตรวจสอบ องค์ประกอบภายในหลอด LED โดยตรวจสอบ Driver และ วัสดุภายใน ที่นำมาประกอบเป็น ไฟ LED 4.ตรวจสอบ ใบอนุญาต มอก.1955-2551 และ เอกสารอื่นๆ | |||||||
|
26 มกราคม 2559
ผู้ชม 21166 ครั้ง